โบท็อก เหมาะกับใครบ้าง

โบท็อก อยู่คู่กับการแพทย์ความงามมาอย่างยาวนาน และถ้าจะพูดถึงเลยเรื่องยกกระชับ ปรับรูปหน้าหรือว่าเสริมความงามให้สวยขึ้น 1 อย่างที่อยู่ในใจใครหลายๆก็คือต้องเป็น Botox (โบท็อก) หรือเรียกกันเต็มๆว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) เป็นโปรตีนอย่างนึงที่มาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า ครอสติเนียมโบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ซึ่งสารตัวนี้จะทำให้กล้ามเนื้อมีความอ่อนแรงและหดตัว

ซึ่งในเรื่องศาสตร์ชะลอวัยและการปรับรูปหน้า ได้นำโบท็อกมาใช้ในการปรับรูปหน้า ลดกล้ามเนื้อที่มีมัดใหญ่ ๆ ลดริ้วรอยก่อนวัย ลดเหงื่อ และกระชับรูขุมขน เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) จึงมีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงเพียงชั่วคราว แต่ยังคงรูปลักษณ์และการแสดงออกที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งปกติส่วนใหญ่ก็จะใช้ในการปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย

เพราะว่าในคนส่วนใหญ่อาจจะเคยได้ยินมาว่า โบท็อกนั้นช่วยได้แค่เรื่องรักษาริ้วรอยบนใบหน้า ลดรอยเหี่ยวย่นหน้าผาก หางตา ลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า อารมณ์ เช่น การยิ้ม หัวเราะ หยักคิ้ว หรือขมวดคิ้ว แต่โบท็อกยังช่วยยกกระชับกรอบหน้า หากเป็นการฉีดบริเวณกรามก็จะทำให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง ทำให้ใบหน้ามีขนาดเรียวขึ้น และยังช่วยเรื่องการลดเหงื่อ ลดขนาดกล้ามเนื้อแขน ขา หน่องได้อีกด้วย

การฉีดโบท็อกนั้นเหมาะใครบ้าง ซึ่งโบท็อกก็จะเหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยก่อนวัย รูปหน้าหรือกรอบหน้าไม่ชัด แต่อยากให้หน้ากระชับขึ้น และยังคงความเป็นธรรมชาติ หลังจากการฉีดโบท็อกไปแล้ว 2-3 วัน จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงสำหรับในริ้วรอยตื้นๆ

ส่วนริ้วรอยลึก ๆ จะเริ่มเห็นผลประมาณ 7-14 วัน เมื่อทำการฉีดโบท็อกไปแล้วสามารถแสดงสีหน้าได้ปกติ เพียงแค่ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า อารมณ์นั้นจะหายไป และในส่วนของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ๆ  เช่น กราม หรือ แขน ขา น่อง ก็จะมีระยะเวลาในการเห็นผลประมาณ 3 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน โดยจะออกฤทธิ์ได้นานประมาณ 4-6 เดือน

ทำไมคนเราถึงต้องฉีด โบท็อก ?

เนื่องจากว่าริ้วรอยของใบหน้าของเราจะมีการแบ่งเบื้องต้นง่าย ๆ ได้ 2 ประเภท คือ

1. ริ้วรอยแบบตื้น จะเกิดขึ้นจากกล้ามเนื้อขยับตัวในขณะแสดงสีหน้า เช่น การยิ้ม หัวเราะ หยักคิ้ว หรือขมวดคิ้ว ทำให้เกิดรอยหย่นหน้าผาก หว่างคิ้ว หรือตีนกา ซึ่งโบท็อกสามารถรักษาริ้วรอยประเภทนี้ได้ดี
2. ริ้วรอยแบบลึก จะเกิดขึ้นจากจากริ้วรอยแบบตื้น จากที่ไม่มีการรักษามาเวลานาน จนทำให้เกิดริ้วรอยแบบลึก สังเกตได้จาก ผู้สูงอายุ แม้จะไม่แสดงสีหน้า ก็จะพบเห็นริ้วรอยร่องลึก บริเวณหย่นหน้าผาก หว่างคิ้ว หรือตีนกา ซึ่งโบท็อกสามารถรักษาริ้วรอยประเภทนี้ได้แค่ในบางส่วน อาจจะได้ต้องใช้การรักษารูปแบบอื่น ๆเข้ามา ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

ดังนั้นการที่เราฉีดโบท็อกตั้งแต่เริ่มมีอาการก็จะทำให้สามารถป้องกันริ้วรอยร่องลึกได้ในอนาคต รวมถึงผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกจะดีกว่าคนที่เริ่มฉีดช้าแม้จะใช้ปริมาณของโบท็อกเท่ากัน ในส่วนใหญ่อายุที่เหมาะสมที่ควรเริ่มต้นกับการฉีดโบท็อกนั้นไม่มีตัวเลขที่แน่นอน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่ปัญหาความกังวลที่พบเจอ แต่หากให้ทางเราแนะนำเป็นการเริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป เพราะในช่วงอายุประมาณ 20-30 ปีนั้น เราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนจะเริ่มรู้สึกได้ว่าริ้วรอยชัดขึ้นทั้งหน้าผาก, ตีนกา และหว่างคิ้ว

ในส่วนของคนที่มีปัญหาเรื่องรูปหน้าหน้าใหญ่ กลม กรอบหน้าไม่ชัด ซึ่งเป็นผลมาจากทั้ง โครงกระดูก ไขมัน และกล้ามเนื้อ หากว่ากรอบหน้านั้นใหญ่มาจากกล้ามเนื้อ การฉีดโบท็อกสามารถทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมีขนาดเล็กลงได้เป็นเวลาประมาณ 4-6 เดือน แต่ยังคงความธรรมชาติหรือแสดงสีหน้าได้ปกติ

ในร่างกายของคนเราจะมีการเปลี่ยนแปลงคล้ายๆ กัน ทั้งเพศชายและเพศหญิง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของริ้วรอยก่อนวัยและรูปใบหน้า ดังนั้นโบท็อกจึงเหมาะกับทั้งเพศชายและเพศหญิง โดยเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ประสบการณ์ และตัวโบท็อกที่มีคุณภาพ สามารถตรวจสอบได้ จะทำให้ริ้วรอยก่อนวัย ปรับรูปหน้าให้เรียว และได้อย่างเป็นธรรมชาติ และยังปลอดภัย

คุณสมบัติของโบท็อกกับการชะลอวัย

1. ลดเลือนริ้วรอย
2. ปรับรูปหน้า ยกกระชับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น (Dermo Lifting)
3. ลดกล้ามเนื้อหรือขนาดของกล้ามเนื้อ แขน ขา หรือ น่อง
4. กระชับรูขุมขน เพื่อลดความมันของใบหน้า (Meso Botox)
5. ลดเหงื่อ เช่น บริเวณรักแร้ ลดกลิ่นตัว

ข้อควรปฏิบัติตัวที่ควรรู้ก่อนฉีดโบท็อก

1. เลือกใช้โบท็อกแท้มี อย. เท่านั้น
2. ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้มีประสบการณ์
3. งดอาหารเสริมในกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเลือดออกหรือฟกช้ำ เช่น กลุ่มวิตามิน E น้ำมันปลา เป็นต้น
4. 2 วันก่อนฉีดแนะนำให้งดรับประทานแอลกอฮอล์

ข้อควรปฏิบัติตัวที่ควรรู้หลังฉีดโบท็อก

1. หลังฉีดหลีกเลี่ยงการนอนราบทุก 4-6 ชั่วโมงทันที่หลังทำการรักษา
2. หลักเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่นการอบซาวหน้าหรืออบไอน้ำ ในบริเวณที่ฉีดไปประมาณช่วง 1-2 สัปดาห์
3. งดนวดคลึงบริเวณที่ฉีดและการทำทรีทเมนท์หน้า เช่น เครื่อง RF หรือกลุ่มพวกการเลเซอร์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
4. งดแอลกอฮอล์ทุกชนิด
5. ควรขยับบริเวณกล้ามเนื้อที่ฉีดไปทุก 15 นาที ในชั่วโมงแรกหลังการฉีด เช่นหากเป็นการฉีดกรามแนะนำเป็นการเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อให้ตัวโบท็อกกระจายและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อ่านบทความเกี่ยวกับ โบท็อก ฉีดโบท็อก หน้าเรียว ร้อยไหม ได้โดยคลิกที่นี่ค่ะ >>> CLICK

อ่านบทความเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ได้โดยคลิกที่นี่ค่ะ >>> CLICK

แต่ถ้าต้องการเติมความเข้าใจ เพื่อตัดสินใจในการฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถคลิกได้ที่นี่เลยค่ะ >>> CLICK

หรือหากต้องการที่จะฉีดโบท็อก หรือร้อยไหม ห้ามพลาดที่จะต้องอ่านเหตุผลดีๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจด้วย Link ด้านล่างนี้ค่ะ

ทำไมจะต้องฉีดโบท็อก ร้อยไหม ที่ TC Clinic มีนบุรี คลิกอ่าน ฉีดโบท็อก ร้อยไหม มีนบุรี ควรเลือกทำที่ไหนดี

ทำไมจะต้องฉีดโบท็อก ร้อยไหม ที่ TC Clinic โคราช คลิกอ่าน ฉีดโบท็อก ร้อยไหม ที่ โคราช ควรเลือกทำที่ไหนดี

ทำไมจะต้องฉีดโบท็อก ร้อยไหม ที่ The Clinic อุบลฯ คลิกอ่าน ฉีดโบท็อก ร้อยไหม อุบล ควรเลือกทำที่ไหนดี

ทำไมจะต้องฉีดโบท็อก ร้อยไหม ที่ TC Clinic ศรีสะเกษ คลิกอ่าน ฉีดโบท็อก ร้อยไหม ศรีสะเกษ ควรเลือกทำที่ไหนดี

The Clinic | TC Clinic ให้ทุกความต้องการเป็นเรื่องง่าย สนใจสามารถสอบถามโปรโมชั่นหรือนัดหมายได้เลยนะคะ

ถ้าอยากฉีดโบท็อกไม่ว่าจะที่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ โคราช กรุงเทพฯ (มีนบุรี,บางพลี) สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ TC Clinic สาขามีนบุรี | TC Clinic สาขาโคราช  |  TC Clinic ศรีสะเกษ  |  The Clinic สาขาอุปลีสาน+หน้า ม.อุบลฯ หรือ อ่านบทความเพิ่มเติม คลิกที่นี่ แต่ถ้าหากต้องการกลับไปทำความรู้จักกับ The Clinic และ TC Clinic ในหน้าแรกนั้น คลิก กลับหน้าแรก