ฉีดโบท็อก ร้อยไหม มีนบุรี ควรจะต้องรู้อะไรบ้าง เพราะ ทุกวันนี้คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักกับ โบท็อก หรือ ร้อยไหมกันแล้วใช่ไหมคะ
ในปัจจุบันถ้าพูดถึง โบท็อก เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินกันบ่อยจนคุ้นหูและต้องยอมรับว่าการฉีด โบท็อก ได้รับความนิยมสูงมาก ตั้งแต่วัยหนุ่มสาว จนถึงคนมีอายุ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงในการปรับรูปหน้า เพื่อให้หน้าเรียว ซึ่งเป็นประตูด่านแรกสู่ความงาม โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่เคยทำอะไรมาก่อนเลยบนใบหน้า ส่วนใหญ่ก็มักจะเริ่มด้วยการฉีด โบท็อก เพราะเป็นหัตถการที่ราคาเอื้อมถึงได้ มีความปลอดภัย และเห็นผลชัดเจน
แต่ก่อนที่จะฉีด โบท็อก นั้น ถ้าเราไม่ได้ศึกษาข้อมูลว่าควรเลือก ฉีด โบท็อก ที่คลินิกไหนดี เลือกอย่างไร บางครั้งเราอาจจะเจอปัญหาเหล่านี้ได้ มาดูกันว่าทำไมต้องเลือกฉีก โบท็อก ที่ TC Clinic สาขามีนบุรี !!
สำหรับการเลือกฉีด โบท็อก นั้นหรือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากเราเลือกฉีด โบท็อก ที่ราคาถูกแต่เป็นของปลอมหรือของหิ้วบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายมีการกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานต่อต้าน โบท็อกขึ้นมา หรือที่ได้ยินบ่อยๆว่า “ดื้อ โบท็อก” นั่นเอง ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจ ฉีด โบท็อก ลูกค้าควรศึกษาวิธีการสังเกต โบท็อก ของแท้ยี่ห้อต่างๆ ก่อนฉีด ซึ่งทางคลินิกเราจะแกะกล่องและเปิดขวด พร้อมผสมยาให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง และที่สำคัญจะสแกนคิวอาร์โค้ดข้างกล่องให้ดู เพื่อยืนยันว่าเป็น โบท็อก แท้ค่ะ
การ ฉีดโบท็อก เหมือนจะฉีดง่าย แต่ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ และหมอที่มีประสบการณ์ เพราะในปัจจุบัน โบท็อก หิ้ว หาซื้อได้ตามอินเตอร์เน็ตง่ายมาก และมีหลายๆ คนที่เห็นแก่ โบท็อก ราคาถูก โดยไม่คำนึงถึงอันตรายจาก โบท็อก ปลอม เมื่อฉีดไปแล้วอาจจะไม่เห็นผล และมีโอกาสเกิดปัญหาตามมาได้ เช่น หน้าแข็งไม่เป็นธรรมชาติ ปากเบี้ยว หนังตาตก การดื้อ โบท็อก เป็นต้น ซึ่งคลินิกเราฉีดโดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า
สถานพยาบาล หรือคลินิกความงามก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีความน่าเชื่อถือ เช่น มีใบอนุญาตสถานประกอบการสถานพยาบาล แพทย์ที่มีใบอนุญาตให้ประกอบสถานพยาบาล คุณหมอที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการด้านการฉีด โบท็อก ซึ่งทางคลินิกเรามีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักประกอบกิจการ ติดอยู่ที่หน้าคลินิกเลยค่ะ
สิ่งหนึ่งที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกฉีด โบท็อก กับทางคลินิก คือ รีวิวจากผู้ที่เข้ารับบริการจริงจากทางคลินิก ซึ่งควรจะดูทั้งรีวิวที่เป็นรูปภาพ รีวิวที่เป็นวีดีโอ และรีวิวที่ลูกค้าเขียนที่หน้าเพจของคลินิก ซึ่งทาง TC Clinic จะมีรีวิวมากมายจากผู้เข้ารับบริการจริง ดังนั้นสามารถมั่นใจได้เลยว่าหากเลือกฉีด โบท็อก ที่ TC Clinic มีนบุรี จะเกิดความพึ่งพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้แน่นอน
โบท็อก หรือ Botulinum toxin A คือ สารสกัดที่ได้จากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม ( Clostridium botulinum ) ซึ่งสารสกัดตัวนี้จะไปทำหน้าที่ช่วยให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดไม่สามารถหดตัวหรือขยับตัวได้ ส่งผลทำให้ไม่มีริ้วรอยเวลาที่แสดงสีหน้าหรือทำให้กล้ามเนื้อกรามเกิดการฝ่อตัวและเล็กลงเนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณนั้นไม่สามารถหดตัวหรือขยับตัวได้
โบท็อกยี่ห้อ Nabota เป็นยี่ห้อที่ The Clinic และ TC Clinic ของเรานำมาให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งเป็นโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ทำให้โอกาสที่จะดื้อโบท็อกน้อย และยังเป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา (U.S.FDA approved 2018) จุดเด่นอยู่ที่เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว ฉีดแล้วใบหน้ามีความเป็นธรรมชาติ สามารถเก็บริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ดี ลดขนาดของกล้ามเนื้อกราม ทำให้ใบหน้าดูเรียวและได้รูปมากขึ้น และในเรื่องของการเข้าถึงด้านราคาสามารถเข้าถึงได้ง่ายเพราะราคาค่อนข้างถูกและสินค้ามีคุณภาพ
เป็นโบท็อกที่นำเข้ามาจากประเทศเกาหลี และนำเข้ามาอย่างยาวนาน สำหรับยี่ห้อนี้ เรียกได้ว่าเป็น Queen ของโบท็อก เป็นโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ซึ่งเป็นโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูงในปัจจุบัน ทั้งยังออกฤทธิ์เร็ว เน้นใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยบริเวณหางตา หัวคิ้ว หน้าผาก ลดปีกจมูก ลดกราม ยกกระชับหน้า ช่วยลดน่อง ช่วยกระชับรูขุมขน ลดเหงื่อ ช่วยลิฟท์กรอบหน้า ปรับรูปหน้าให้ได้รูปมากขึ้น
- เลข Lot แสดงการผลิต
- QR Code สแกนตรวจสอบ
- ข้างกล่อง และคู่มือเป็นภาษาไทย
- สติกเกอร์ Hologram ข้างขวด
โบท็อกยี่ห้อ Allergan ซึ่งผลิตในประเทศอเมริกา มีจุดเด่นก็คือโบท็อกยี่ห้อนี้เขามีการพัฒนาตัวยาอย่างต่อเนื่อง และตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% จึงทำให้มีโอกาสดื้อโบท็อกน้อยกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ และผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ ซึ่งโบท็อกยี่ห้อนี้จะให้ผลการรักษาที่แม่นยำเพราะตัวยากระจายตัวแคบ ช่วยให้แพทย์ที่ทำการฉีดโบท็อกสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อก ได้แม่นยำ ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี แต่ก็ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูงเช่นกัน
หากเมื่อเปรียบเทียบกับยี่ห้อ Nabota ซึ่งโบท็อกทั้งสองยี่ห้อมีความบริสุทธิ์ที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยแต่โบท็อกยี่ห้อ Allergan ค่อนข้างมีราคาที่สูงกว่าโบท็อกยี่ห้อ Nabota แต่สามารถให้ผลลัพธ์ที่คล้ายกัน ตอบโจทก์ในเรื่องของความเป็นธรรมชาติ การเห็นผลไว โอกาสดื้อยาน้อย รวมทั้งความสามารถในการเก็บริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ดีเหมือน ๆ กันอีกด้วย
ซึ่งยี่ห้อนี้เรียกได้ว่าเป็น King ของ โบท็อก เลยทีเดียว แน่นอนอยู่แล้วที่คลินิกของเราได้นำเข้าอย่างที่ทราบกันยี่ห้อนี้จะมีจุดเด่นคือเป็นงานวิจัยที่มีคุณภาพสูง เป็นที่นิยมทั่วโลก และมีการใช้กันมาอย่างยาวนานและเป็นที่ยอมรับ จะช่วยในการปรับรูปหน้า ลดเลือนริ้วรอยบริเวณหางตา หัวคิ้ว หน้าผาก ลดปีกจมูก ลดกราม ยกกระชับหน้า ช่วยลดน่อง ช่วยกระชับรูขุมขน ลดเหงื่อ ช่วยลิฟท์กรอบหน้า แต่ยังคงความเป็นเป็นธรรมชาติ
- มีซีลที่กล่องป้องกันการเปิด
- ในกล่องโบท็อกจะมีเอกสารกำกับภาษาไทย
- เลข Lot ข้างกล่องและข้างขวด จะตรงกันทั้ง 2 จุด
- สามารถตรวจสอบเลข Lot ที่คลินิกและบริษัท ALLERGAN Thailand
โบท็อกยี่ห้อ Dysport ผลิตโดยประเทศอังกฤษ ตัวยาสามารถกระจายตัวได้เป็นบริเวณกว้าง ทำให้การฉีดจะต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และต้องอาศัยเทคนิคในการฉีดสูง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น มุมปากตก หนังตาตก ยิ้มไม่สุด ปากเบี้ยว เป็นต้น
จุดเด่นคือ สามารถออกฤทธิ์ได้ไว จึงทำให้โบท็อกกระจายได้อย่างทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบ ๆ สามารถนำมาใช้ปรับรูปหน้า ด้วยเทคนิค Dermolift เพื่อยกกระชับหน้าได้ ช่วยลดริ้วรอย และกระชับผิว แต่ข้อเสียของการกระจายตัวได้เป็นบริเวณกว้างจึงไม่สามารถเฉพาะเจาะจงบริเวณใดบริเวณหนึ่งได้
โบท็อกยี่ห้อ Botulax ผลิตโดยประเทศเกาหลี ตัวยามีการกระจายตัวแคบ ความโดดเด่นของโบท็อกยี่ห้อ Botulax ก็คือเรื่องของความบริสุทธิ์ สามารถฉีดเพื่อลดริ้วรอย ลดกรามช่วยให้หน้าเรียวเล็กลง รวมถึงใช้ในการลิฟต์กรอบหน้าเพื่อกรอบหน้าที่ชัดเจนขึ้น หลังฉีดใบหน้าไม่แข็งตึง สามารถลดกรามและลดน่องได้ ขึ้นอยู่กับความถนัดและเทคนิคของแพทย์ที่ให้บริการ
เป็นโบท็อกของเกาหลี นิยมใช้ฉีดบริเวณหางตา หัวคิ้ว หน้าผาก ลดปีกจมูก ลดกราม ลดโหนก ยกกระชับหน้า ช่วยลดน่อง สามารถเห็นผลได้ชัดเจน อยู่ที่ 2 สัปดาห์ มีความปลอดภัยและได้รับการรับรองจาก อย.ไทย
- เลข Lot แสดงการผลิต
- QR Code สแกนตรวจสอบ
- ข้างกล่อง และคู่มือเป็นภาษาไทย
- สติกเกอร์ Hologram ข้างขวด
โบท็อก ทำงานโดยมีฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของปลายประสาท บริเวณกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว โดย Botox จะเริ่มออกฤทธิ์ประมาณ 2-3 วันหลังฉีด และออกฤทธิ์เต็มที่ประมาณ 7-14 วัน หลังฉีดมีอายุการใช้งานประมาณ 3-4 เดือน เมื่อกล้ามเนื้อหยุดทำงานเป็นระยะเวลาหนึ่ง ไม่ว่าจะบริเวณกรามก็จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นลดลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเล็กลง ดูวีเชฟขึ้น หรือจะเป็นบริเวณริ้วรอย ก็จะส่งผลทำให้ผิวบริเวณริ้วรอยดูเรียบเนียน มีริ้วรอยและเส้นริ้วลดลง แต่บริเวณใบหน้าที่ไม่ได้รับการรักษาจะไม่ได้รับผลกระทบและจะทำงานได้ตามปกติ
เมื่อรู้การเตรียมตัวและการหาข้อมูลก่อนการฉีดโบท็อกแล้วต่อไปเรามารู้จักการดูและการเลือก ร้อยไหม ที่ไหนดี ? เพื่อให้มั่นใจในการเข้ารับบริการและการเลือกคลินิกที่ปลอดภัยเราไปรู้จักกันเลย
แน่นอนเลยว่านอกจากการใช้โบท็อกในการปรับรูปหน้าแล้ว ยังมีการใช้ไหมเพื่อที่จะใช้ในการรับรูปหน้าอีกวิธีหนึ่งด้วย แล้วเราจะรู้หรือสังเกตุได้อย่างไร ไหมมีกี่ชนิด ใช้แตกต่างกันและมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน ทุกคนย่อมมีคำถามแน่นอน เพราะฉะนั้นวันนี้หมอจะพาไปรู้จักการร้อยไหมที่ดีและมีคุณภาพกันค่ะ
สำหรับการเลือก ฉีดโบท็อก นั้นจะเหมาะสำหรับคนที่มีกังวลว่าหน้าบาน หน้าใหญ่ หรือหน้าเหลี่ยม ซึ่งหากเราประเมินแล้วว่าปัญหาเหล่านั้นเกิดจากกล้ามเนื้อกรามที่ใหญ่มากเกินไป การฉีด โบท็อก ก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ ซึ่งวิธีในการประเมินกรามสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง โดย นำมือทั้ง 2 ข้างมาวางบริเวณแก้มด้านหน้าของใบหู แล้วกัดฟัน จะมีก้อนแข็งๆ เด้งมาชนมือ นั้นคือกล้ามเนื้อกราม ซึ่งสามารถทำให้เล็กลงได้ด้วยการฉีด โบท็อก กราม และ โบท็อก ยังสามารถฉีดลดริ้วรอย บริเวณหน้าผาก ขมวดคิ้ว และตีนกาได้อีกด้วย ซึ่ง โบท็อก นี้สามารถฉีดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
- บริเวณกรามของแต่ละบุคคลจะฉีดไม่เท่ากัน เนื่องจากกล้ามเนื้อกรามแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะฉีดครั้งละประมาณ 50-70 ยูนิต ต่อครั้งขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
- บริเวณหน้าผาก เป็นที่นิยมของสาวๆ ที่ค่อนข้างมีอายุเลย เพราะต้องการลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ไม่ควรฉีดเกิน 50 unit ไม่อย่างนั้นอาจจะตึงไปถึงดาวอังคารได้
- บริเวณหางตา หรือรอยตีนกา ไม่ควรฉีดเกิน 20 unit เพราะเป็นจุดที่ค่อนข้าง Sensitive ถ้าฉีดมากเกินไปอาจจะตึงจนไม่เป็นธรรมชาติตาแข็งแน่นอนค่ะ
- บริเวณระหว่างคิ้ว ไม่ควรฉีดโบท็อกเกิน 15 unit เพราะกล้ามเนื้อตรงนั้นจะขยับได้ยาก ทำให้เวลาแสดงสีหน้าอารมณ์ออกมาจะดูไม่เป็นธรรมชาติ
ระยะเวลาการออกฤทธิ์ของ โบท็อก จะขึ้นอยู่กับแต่ละตำแหน่งที่ทำการรักษา ดังนี้ค่ะ
- ริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลได้ภายใน 7-14 วัน จะทำให้กล้ามเนื้อขยับได้น้อย ริ้วรอยบนใบหน้าจะค่อย ๆ ลดลง
- ลดกราม/ปรับรูปหน้า จะเริ่มเห็นผลภายใน 1 เดือน จะทำให้ใบหน้าเล็กลงและดูเรียวขึ้น
- ฉีดโบท็อก ไม่ถูกมัดกล้ามเนื้อ แพทย์ที่เชี่ยวชาญจะรู้ว่าควรฉีดโบท็อกในตำแหน่งไหนทางที่ดีที่สุด คือ ควรเลือกฉีดกับแพทย์ในคลินิกเวชกรรมเท่านั้น
- การผสมโบท็อก ของบางคลินิก อาจจะการเจือจางมากเกินไป เพื่อให้ได้ปริมาณที่มาก
- การ ดื้อโบท็อก หากคนไข้ดื้อต่อโบท็อก ไปไม่ว่าจะฉีดโบท็อก ยี่ห้ออะไรก็ไม่เห็นผล ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ลูกค้าเคยไปฉีดโบท็อก ปลอม หรือเถื่อน ส่งผลทำให้ร่างกายดื้อยาไปแล้ว
- โบท็อก กราม
- โบท็อก Lift กรอบหน้า
- โบท็อก ลดน่อง
- โบท็อก ลดริ้วรอย
- โบท็อก ลดความเหี่ยวบริเวณคอและหลังมือ
- โบท็อก ลดเหงื่อบริเวณใต้วงแขน
- โบท็อก กระชับรูขุมขนและลกความมันบนใบหน้า
- คุณหมอประเมินปัญหาพร้อมกับประเมินจำนวนยูนิตที่ต้องใช้กับปัญหาของคุณลูกค้า และกำหนดจุดที่จะฉีดโบท็อก เช่น บริเวณกราม ริ้วรอย หน้าผาก ขมวดคิ้ว ตีนกา เป็นต้น
- เจ้าหน้าที่เตรียมลูกค้า เก็บผม ถ่ายภาพ ทำความสะอาดใบหน้า แปะยาชา 30 นาที
- เจ้าหน้าที่พยาบาลทำการเตรียมยาและสอนวิธีการดู โบท็อก ว่าเป็นของแท้หรือเปล่า
- คุณหมอทำการฉีดโบท็อกเพื่อแก้ไขปัญหาของคนไข้อย่างเบามือให้มากที่สุด
- หลังฉีด โบท็อก ทางคลินิกจะมีใบการันตี โบท็อก ให้กลับบ้าน
- งดนอนราบ อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการกด นวดคลึงบริเวณที่ฉีดโบท็อก
- กรณี ฉีดโบท็อกกราม หลังฉีดให้เคี้ยวหมากฝรั่งสลับข้าง ซ้าย-ขวา เป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้ตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น เลเซอร์, HIFU, อบไอน้ำ, ซาวด์หน้า และงดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 2 สัปดาห์หลังฉีดโบท็อก
เป็นอีกหนึ่งสิ่งในการเสริมความงามที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นนวัตกรรมที่เห็นผลได้ชัดเจนหลังทำ มีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำเสร็จก็สามารถไปทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติและไม่เจ็บตัวมากเหมือนการผ่าตัด แต่ก็ไม่ใช่ว่าการร้อยไหมจะเหมาะกับทุกคนหรือทุกคนจะทำออกมาแล้วได้ผลแบบเดียวกัน ซึ่งทาง TC Clinic มีนบุรี ได้ให้ความสำคัญในการออกแบบรูปหน้าของลูกค้าให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การร้อยไหม จะเหมาะสำหรับคนที่มีผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ กรอบหน้าไม่ชัด ช่วงอายุที่ส่วนใหญ่นิยมเข้ามาร้อยไหมก็จะเป็นช่วงอายุประมาณ 30 ปีถึง 55 ปี ที่ต้องการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้า
แต่อย่างไรก็ดีการร้อยไหมเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกส่วนของใบหน้า อาจจะต้องมีการฉีด โบท็อก หรือ Filler หรือแม้แต่ Meso Fat สลายไขมันร่วมด้วย แต่วันนี้เราจะมาพูดคุยกันในส่วนของการร้อยไหมว่าทำไมถึงควรเลือกร้อยไหมกับ TC Clinic สาขามีนบุรี นะคะ แต่ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ ว่าในปัจจุบันไหมมีกี่ชนิด การเตรียมตัวก่อนร้อยไหมและการปฏิบัติตัวหลังร้อยไหม ขั้นตอนในการร้อยไหม และทำไมต้องเลือกร้อยไหมที่ TC Clinic สาขามีนบุรี
ปัจจุบันไหมที่ใช้ในการร้อยไหมเพื่อยกกระชับใบหน้าจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ดังนี้นะคะ
ส่วนใหญ่จะเป็นเส้นหมายที่ทำจากพลาสติกหรือโลหะที่ไม่สามารถละลายได้เอง ซึ่งในปัจจุบันไหมชนิดนี้จะไม่เป็นที่นิยมแล้วเนื่องจากมีผลข้างเคียงหลายอย่างเช่นเกิดการอักเสบบริเวณป้อมไหมหรือหลังร้อยไปสักพักจะมีเส้นไหมแทงออกมาจากผิวหน้า หรือบางชนิดจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไหมชนิดอื่นๆและบางชนิดจะไม่ทนต่อความร้อนซึ่งเมื่อร้อยไปแล้วจะไม่สามารถทำเลเซอร์หรือทรีทเม้นหน้าที่เกี่ยว กับความร้อนได้ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของใบหน้าได้
เป็นไหมที่ได้จากการสังเคราะห์ ซึ่งหลังร้อยไปแล้วจะสามารถละลายได้เองตามธรรมชาติและในปัจจุบันไหมชนิดนี้กำลังเป็นที่นิยมเนื่องจากราคาที่ไม่ค่อยสูงและผลข้างเคียงน้อยเห็นผลชัดเจน ซึ่งไหมละลายที่นิยมใช้จะมีดังนี้ นะคะ
- ไหมเรียบ ( Mono Threads ) ไหมชนิดนี้จะช่วยทำให้ผิวเต่งตึงขึ้นแต่จะไม่สามารถช่วยยกชั้นผิวหนังได้ ส่วนใหญ่จะนิยม ร้อยบริเวณคอ กรอบหน้า จำนวนที่ใช้จะใช้ตั้งแต่ 20 – 100 เส้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการร้อยค่ะ
- ไหมเกลียว ( Screw Threads ) ไหมชนิดนี้จะเหมาะสำหรับการร้อยเพื่อเติมเต็มผิวหนังบริเวณที่ยุบตัวหรือเป็นแอ่งให้เต็มขึ้น เช่น แก้มตอบหรือร่องแก้ม
- ไหมเงี่ยง ( Cog Threads ) ไหมชนิดนี้จะเหมาะสำหรับการร้อยเพื่อยกกระชับใบหน้าส่วนล่างที่หย่อนคล้อยให้ถูกยกขึ้น เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียว กรอบหน้าชัดขึ้น ซึ่งเส้นไหมจะมีลักษณะเป็นเงี่ยงคล้ายตะขอเบ็ดตกปลาตลอดเส้นไหม ซึ่งเงี่ยงนี้จะช่วยยกเนื้อเยื่อหรือผิวหนังที่หย่อนยานให้ยกขึ้นรวมทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้มาพันรอบเส้นไหม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะร้อยประมาณ 4-10 เส้นต่อครั้ง
หลังจากที่เราได้ศึกษาข้อมูลของการร้อยไหมและปรึกษาแพทย์ประเมินใบหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้องการมาแล้วก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับบริการที่คลินิกเพื่อร้อยไหมเราจะต้องปฏิบัติตัวดังนี้
หลังร้อยไหมไปแล้วในช่วง 1-2 สัปดาห์อาจจะมีรอยเข็มร้อยช้ำจากการฉีดยาชา หรืออาจมีอาการบวม หรือบางคนอาจจะมีอาการแปล๊บๆบริเวณเส้นไหมหรือที่เรียกว่า “เสียวไหม” อาการต่างๆเหล่านี้ถือว่าเป็นอาการอาการปกติที่เกิดขึ้นได้หลังการร้อยไหม ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะอาการเหล่านี้จะหายไปเองค่ะ และเรามาดูวิธีในการปฎิบัติตัวหลังการร้อยไหมนะคะว่าควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรหลังร้อยไหมไป
- หลีกเลี่ยงการนวด ขัดถูบริเวณใบหน้าแรง ๆ
- งดเครื่องแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- งดการทำเลเซอร์ อบซาวน่า หลีกเลี่ยงความร้อนต่าง ๆ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- หากมีรอยเข็ม รอยช้ำจากการร้อยไหมจะหายไปเองภายใน 7-14 วัน
- ทานยาให้ครบตามแพทย์สั่งห้ามหยุดยาเอง
ก่อนการร้อยไหมกับทางคลินิก ลูกค้าจะได้พบคุณหมอก่อนเพื่อที่จะให้คำปรึกษาและคำแนะนำ รวมทั้งสอบถามประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัวหรือยาที่ใช้เป็นประจำเนื่องจากว่ายาที่ใช้บางชนิดจะมีผลต่อการร้อยไหมหรือบางโรคประจำตัวจะไม่สามารถร้อยไหมได้ หลังจากที่พบคุณหมอแล้วจะมีขั้นตอนก่อนการร้อยไหมดังนี้
- ทายาชาก่อนทำหัตถการอย่างน้อย 30 นาที เพื่อลดอาการเจ็บจากการฉีดยาชา
- ระหว่างรอยาชาออกฤทธิ์ คุณหมอจะให้ทานยาก่อนการร้อยไหมซึ่งจะเป็นยาฆ่าเชื้อและยาแก้ปวด
- เมื่อครบ 30 นาที คุณหมอจะทำการฉีดยาชาก่อนการร้อยไหม
- คุณหมอจะทำสัญลักษณ์โดยการวาดเส้นจาก จุดที่จะเปิดทางเข้าของเส้นไหมจนถึงกรอบหน้าตามตำแหน่งที่จะทำการร้อยไหม
- คุณหมอทำการร้อยไหมตามตำแหน่งที่ทำสัญลักษณ์ไว้
- หลังจากการร้อยไหมเสร็จคุณหมอจะแนะนำวิธีในการดูแลตัวเองหลังร้อยไหมและจ่ายยากลับบ้าน ซึ่งจะเป็นยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบและยาฆ่าเชื้อ
สำหรับคนที่สนใจ ฉีดโบท็อก กับ ร้อยไหม แต่ยังลังเลหรือตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะฉีดโบท็อก ร้อยไหมที่ไหนดี ต้องใช้อะไรเป็นตัวตัดสินว่าคลินิกไหนสามารถเชื่อถือและไว้วางใจได้ ให้ดูจากมาตรฐานของคลินิกเป็นหลัก แพทย์ที่ทำการรักษามีความน่าเชื่อถือ ซึ่งบทความนี้เราจะมาดูเหตุผลว่าทำไมถึงต้องเลือกร้อยไหมที่ TC Clinic มีนบุรี
- TC Clinic มีนบุรี เปิดถูกต้องตามกฏหมาย มีใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข
- ทีมแพทย์ที่ TC Clinic มีนบุรี ทุกท่านเป็นแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภา และเป็นผู้เชี่ยวชาญในการร้อยไหม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการร้อยไหม เพราะหากร้อยไหมไม่ถูกชั้นก็จะทำให้เกิดผลเสียตามมาและทำให้การร้อยไหมนั้นไม่เห็นผลตามที่คาดหวัง
- TC Clinic มีนบุรี มีรีวิวจากผู้ที่เข้ารับบริการจริงเป็นจำนวนมาก ซึ่งรีวิวนี้ได้มาจากการที่ลูกค้าร้อยไปแล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจึงต้องการบอกต่อ
- TC Clinic มีนบุรี มีโปรโมชั่นที่หลากหลายสามารถเลือกได้ตามความต้องการของลูกค้าและผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
- ทีมแพทย์ของ TC Clinic มีนบุรี มีการอัพเดทความรู้ใหม่ๆ ตลอดเวลา
- ลูกค้ามีความสบายใจทุกครั้งที่เข้ารับบริการที่ TC Clinic มีนบุรี เนื่องจากทางคลินิกจะไม่ขายแบบ Hard Sell ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่มีหน้าที่เพียงให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำแก่ลูกค้าและให้ลูกค้าเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะทำอะไรบ้าง
ทีมแพทย์มากประสบการณ์
ความเชี่ยวชาญและประสบการณของทีมแพทย์ ที่เป็นทั้งอาจารย์ และการเข้ารับการ Train พัฒนาศักยภาพความรู้และเทคนิคอย่างต่อเนื่อง
ผลิตภัณฑ์แท้ มี อย.ได้รับรองมาตรฐานระดับโลก
ลูกค้าที่เข้ารับบริการสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้ โดยการ สแกน QR Code แกะกล่องใหม่ทุกเคส ให้กล่องกลับบ้าน เพื่อยืนยันว่าคลินิกให้ตัวยาแท้ 100 % เราใช้ฟิลเลอร์แท้ จากเกาหลีและอเมริกา โดยซื้อกับบริษัทตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้องในประเทศไทย
คลินิกมีใบอนุญาต ได้มาตรฐานและความปลอดภัย
เป็นคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐานความสะอาด ความปลอดภัย อุปกรณ์ได้มาตรฐาน รวมทั้งต้องมีอุปกรณ์ยังชีพเผื่อไว้กรณีฉุกเฉิน เช่น เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องตรวจสอบคลื่นหัวใจ เครื่องกู้ชีพ เป็นต้น
รีวิวคุณภาพจากกลุ่มลูกค้าที่เข้ารับบริการ รีวิวรูปภาพก่อนทำและหลังทำจากลูกค้าที่เข้ารับบริการจริง
เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำอย่างชัดเจน จนลูกค้ารู้สึกประทับใจ
การันตีคุณภาพจากรางวัลต่าง ๆ
มีการติดตามผลดูแลลูกค้าหลังทำอย่างต่อเนื่อง ทาง TC Clinic และ The Clinic
ได้มีการติดตามผลหลังทำทันที 1 วัน เพื่อประเมิน ผลที่อาจเกิดจากอาการข้างเคียงหรือให้คำแนะนำเพิ่มเติมในการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ และนัดติดตามผลเพิ่มหลังทำ 1 เดือน โดยการเข้าพบแพทย์ที่คลินิกอีกครั้ง
ราคาให้บริการเหมาะสม ย่อมเยา จับต้องได้ โปรโมชั่นสุดคุ้ม TC Clinic และ The Clinic ให้บริการที่เหมาะสม ไม่ถูกและไม่แพงจนเกินไป
เพราะหากมีราคาถูกเกินไปก็อาจถูกมองว่า คลินิกอาจจะใช้วัสดุปลอมในการทำ ส่วนถ้าคลินิกคิดราคาแพงมากๆ คลินิกก็อาจถูกมองว่า อาจจะบวกราคาเพิ่มสูงๆ เพราะต้องการกำไรมาก ๆ ก็เป็นได้ ดั้งนั้นการทำราคาให้เหมาะสม จับต้องได้ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการของคลินิกได้อย่างทั่งถึงทุกกลุ่มคน