โบท็อกกราม โบท็อกหน้าเรียว เป็นการรักษาที่ค่อนข้างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับความผิดปกติของ TMJ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาถึงประโยชน์และความเสี่ยงทั้งหมด Masseter Botox เป็นการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปใน Masseter ซึ่งเป็นชุดของกล้ามเนื้อที่ไหลลงมาตามแนวกรามที่เชื่อมต่อโหนกแก้มกับฟัน การรักษาใช้เวลาเพียง 10 นาที โดยฉีดทั้งหมด 8 ครั้ง โดยฉีด 4 ครั้งในแต่ละด้านของกราม คุณควรสังเกตผลลัพธ์ภายในหนึ่งหรือสองสัปดาห์ และควรคงอยู่เป็นเวลาหลายเดือน
โบท็อกซ์ หรือ โบท็อก เป็นโปรตีนที่ผลิตโดยแบคทีเรีย Clostridium botulinum มักจะฉีดโบท็อกซ์ / โบท็อกที่หน้าผากและกลาเบลล่าเพื่อลดเลือนริ้วรอย นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับริมฝีปากบนและรอยตีนการอบดวงตา รวมถึงการใช้เครื่องสำอางอื่นๆ โบท็อกซ์เป็นพิษที่โจมตีปลายประสาท (neurotoxins) มีการใช้มาประมาณ 20 ปีเพื่อรักษาอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ โบท็อกซ์ / โบท็อก มาจากแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคโบทูลิซึม แต่ไม่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ ผลของโบทูลินั่มท็อกซินบนผิวหนังจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและคงอยู่ได้ระหว่าง 3 ถึง 6 เดือน
โดยทั่วไป ในการรักษากรามเหลี่ยม เราใช้ BTXA, Botox ฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อมัดเล็กข้างละ 50-100 ยูนิต กล่าวโดยสรุป คือ ใช่ โบท็อก สามารถช่วยบรรเทาอาการกรามแน่นและอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ การขบกรามบ่อยๆ (พร้อมกับการบด) อยากรู้เรื่อง Botox มากกว่านี้ >>> Click เลย
โบท็อกกราม คืออะไร?
โบท็อกกรามเป็นการรักษาที่เกี่ยวข้องกับการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในกล้ามเนื้อของผู้นวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อและสร้างแนวกรามที่เรียวขึ้น ปลอดภัย บุกรุกน้อยที่สุด และมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องหยุดทำงานเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยหลังจากนั้น
Botulinum toxin เป็นสารที่ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าเป็นอัมพาต เมื่อฉีดเข้าไปในกรามสามารถช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อมัดเล็กได้ นี่คือกล้ามเนื้อที่วิ่งลงมาด้านข้างของใบหน้าและเชื่อมต่อโหนกแก้มกับกรามล่าง เมื่อเวลาผ่านไป กล้ามเนื้อส่วนนี้สามารถทำงานเกินขนาดและเพิ่มขนาดได้ ส่งผลให้เกิดการพองตัวบนแนวกราม
โดยการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในกล้ามเนื้อที่นวด เราสามารถทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและคลายตัวได้ ซึ่งส่งผลให้ขนาดของกล้ามเนื้อลดลง และท้ายที่สุดจะได้แนวกรามที่เรียวขึ้นและสวยงามขึ้น การรักษานี้เหมาะสำหรับทั้งชายและหญิงที่ไม่พอใจกับขนาดที่ใหญ่
โบท็อกกราม มีประโยชน์อย่างไร
การฉีดโบท็อกซ์เป็นการรักษาที่ค่อนข้างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับความผิดปกติของ TMJ แต่จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาถึงประโยชน์และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
“โบท็อกซ์กรามเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการ TMD (ความผิดปกติของขมับและขากรรไกรล่าง)” ดร. แมตต์ เนจาด ทันตแพทย์ด้านความงามและเลียนแบบธรรมชาติอธิบาย “การฉีดโบท็อกซ์ในเครื่องนวดจะช่วยหยุดกล้ามเนื้อกรามไม่ให้เคลื่อนไหวมาก ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณขบฟันอย่างกระวนกระวาย”
โบท็อกซ์ช่วยให้กรามแน่นได้ไหม กล่าวโดยสรุปคือ ใช่ โบท็อกซ์สามารถช่วยบรรเทาอาการกรามแน่นและอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ การขบกรามบ่อยๆ (พร้อมกับการกัดฟัน) อาจนำไปสู่ความเจ็บปวด ปวดศีรษะ และแม้แต่ปัญหา TMJ โบท็อกซ์เป็นวิธีการรักษาแบบฉีดที่ได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักดีในด้านผลของการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและปรับลดริ้วรอยบางประเภทและริ้วรอยบางประเภท นอกจากการใช้เครื่องสำอางแล้ว การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ยังมี
โบท็อกกราม ผลข้างเคียงคืออะไร?
มีหลายคนที่กำลังมองหาวิธีปรับปรุงรูปลักษณ์ของพวกเขา สิ่งหนึ่งที่ผู้คนสามารถทำได้คือการฉีดโบท็อกซ์กราม สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงรูปลักษณ์ของใบหน้าและทำให้ดูอ่อนกว่าวัย มีผลข้างเคียงบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการฉีดประเภทนี้
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดคือการฟกช้ำ ซึ่งมักจะหายไปภายในหนึ่งสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงของการติดเชื้อที่บริเวณที่ฉีด ผลข้างเคียงอื่นๆ ได้แก่ ปวดคอ กล้ามเนื้อตึง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวด และมีรอยแดงหรือเปลี่ยนสีบริเวณที่ฉีด ผลข้างเคียงเหล่านี้มักเกิดขึ้นชั่วคราวและจะหายไปภายในสองสามวันหรือหลายสัปดาห์
นานแค่ไหน?
การฉีดโบท็อกซ์โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้สามถึงสี่เดือน อย่างไรก็ตาม มีหลายปัจจัยที่สามารถส่งผลต่อระยะเวลาที่ผลของโบท็อกซ์จะอยู่ได้ ซึ่งรวมถึงอายุของบุคคล ตำแหน่งที่ฉีด และเมแทบอลิซึมตามธรรมชาติของบุคคลนั้น ในบางกรณี ผู้คนอาจพบว่าโบท็อกซ์อยู่ได้นานกว่าหกเดือน
ปลอดภัยไหม
ใช่ การฉีดโบท็อกซ์นั้นปลอดภัย พวกเขามีประวัติที่ปลอดภัยอย่างน่าทึ่งโดยมีผลข้างเคียงร้ายแรงเพียง 36 รายการที่รายงานไปยัง FDA ระหว่างปี 1989 และ 2003 เมื่อดำเนินการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ การฉีดโบท็อกซ์เพื่อความงามและโบทูลินั่มท็อกซินนั้นค่อนข้างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับขั้นตอนทางการแพทย์อื่นๆ มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง อาการเหล่านี้รวมถึงอาการฟกช้ำและปวดบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะและมีอาการคล้ายไข้หวัดใน 24 ชั่วโมงแรก และหนังตาตก (หากฉีดใกล้กับคิ้วมากเกินไป สารพิษอาจกระจายไปยังกล้ามเนื้อเลเวเตอร์) แต่โดยรวมแล้วความเสี่ยงมีน้อยมากและโบท็อกซ์ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยและทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ใครเหมาะที่จะฉีดโบท็อกซ์กราม
หากคุณมีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ การฉีดโบท็อกซ์สามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อและปรับแต่งรูปหน้าของคุณได้ โบท็อกซ์เป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพโดยมีเวลาหยุดทำงานน้อยที่สุด เหมาะสำหรับทั้งชายและหญิงที่ต้องการปรับรูปหน้า การฉีดโบท็อกซ์ของ Masseter ช่วยคลายกล้ามเนื้อทำให้กรามเรียวขึ้น
ขั้นตอนดำเนินการอย่างไร
โบท็อกซ์เป็นขั้นตอนเครื่องสำอางยอดนิยมที่สามารถลดขนาดของกล้ามเนื้อมัดซึ่งทำหน้าที่เคี้ยวได้ชั่วคราว การรักษาทำได้รวดเร็วและไม่เจ็บปวด โดยคนส่วนใหญ่จะเห็นผลเต็มที่ภายในไม่กี่สัปดาห์ หากคุณกำลังพิจารณาที่จะฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดกราม นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้
สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือจำนวนการฉีดที่คุณต้องการ จำนวนการฉีดจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษาและเป้าหมายของแต่ละคน โดยทั่วไปแล้ว การฉีดยาทั้งหมดแปดครั้งจะทำพร้อมกัน สี่ครั้งในแต่ละด้านของกราม คุณควรสังเกตว่ากล้ามเนื้อเริ่มคลายตัวหลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่นาที โดยทั่วไปแล้วจะเห็นผลลัพธ์ทั้งหมดภายในสองสามสัปดาห์
สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการนอนราบหรือถู/นวดบริเวณที่ทำการรักษาเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมงหลังการทำหัตถการ วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้โบท็อกซ์แพร่กระจายไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ บนใบหน้าของคุณ และลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
สรุป
สรุปได้ว่า Masseter Botox เป็นการรักษาที่ค่อนข้างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับความผิดปกติของ TMJ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงทั้งหมดของ Masseter Botox หากคุณกำลังพิจารณาการรักษานี้ อย่าลืมปรึกษาแพทย์ของคุณเพื่อดูว่าเหมาะกับคุณหรือไม่ ทั้งนี้ที่ The Clinic และ TC Clinic ทุกสาขา มีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า และทีมงานผู้รู้จริงคอยให้คำปรึกษาโดยไม่ยัดเยียดการขายให้คุณอึดอัดคอยให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 20.00 น ค่ะ